หน้าแรก | สินค้า&บริการ/Product&Service | สินค้าโปรโมชั่น | งานออกแบบ | เว็บบอร์ด | วิธีการสั่งซื้อ | วิธีการชำระเงิน | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา |
วิธีและสูตรทำให้ผิวขาวสดใสปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย ภายใน 1 เดือน | |
ศัลยกรรมเกาหลี ร้อยไหม ดึงหน้า ฉีดโบท็อกซ์ รอบเอว 360 องศา และอื่นๆ อีกมากมาย เข้าถึงง่าย ไม่ต้องบินไกลถึงเกาหลี ที่ K Beauty Hospital
ผิวขาว คือสีผิวของคนเรามีหลายเฉด ปัจจัยหลักที่ทำให้สีผิวแตกต่างกันคือเชื้อชาติและพันธุกรรม แต่ภูมิประเทศและสภาพแวดล้อมรอบตัวก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสีผิวเช่นเดียวกัน สำหรับประเทศไทยแล้วคนไทยโดยทั่วไปมีผิวเหลือง ไม่ได้เรียกว่าดำอย่างที่คนไทยหลายคนเข้าใจ แต่เป็นส่วนผสมของสีน้ำตาลกับสีขาวมากกว่า หรือจะเรียกกันให้เข้าใจ โดยทั่วไปว่า ผิวสีแทน หรือ สีน้ำผึ้ง ก็ได้ ทั้งนี้สีผิวจะอ่อนหรือเข้มส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับภูมิภาคที่อยู่อาศัยและการดูแลตัวเองด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่าค่านิยมผิวขาวในประเทศไทยมีมาอย่างยาวนาน ผิวขาวคือ ตัวแทนของความงาม เห็นได้จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆที่โฆษณาว่าช่วยให้ผิวขาววางขายอยู่เต็มไปหมด แต่ก่อนจะพูดเรื่องวิธีที่ช่วยให้ผิวขาว มาทำความเข้าใจเรื่องสีผิวกันก่อนดีกว่า สีผิวของคนเราถูกกำหนดด้วยจำนวน “เมลานิน” ยิ่งมีมากผิวก็ยิ่งเข้มมาก เมลานินคือเม็ดสีที่สร้างโดยเซลล์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “เมลาโนไซต์” ซึ่งอยู่ในชั้นหนังกำพร้าอีกที เมลาโนไซต์ไม่ได้อยู่แค่ในผิวเท่านั้น แต่ยังอยู่ในเส้นผม เส้นขนและดวงตาด้วย เพราะฉะนั้นนอกจากสีผิวแล้ว ผม ขนและสีของดวงตาก็จะมีเฉดสีที่แตกต่างกันเช่นเดียวกัน เมื่อจำนวนเมลานินมีผลต่อความเข้มของสีผิว ดังนั้นการจะมีผิวขาวได้จะต้องมีเม็ดสีผิวน้อยมาตั้งแต่แรกหรือทำให้เม็ดสีลดจำนวนลงในภายหลังนั่นเอง ถึงแม้ปัจจัยหลักที่มีผลต่อจำนวนเม็ดสีเมลานินคือเชื้อชาติและการถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่ก็มีปัจจัยภายนอกจากสภาพแวดล้อมหลายอย่างที่ส่งผลต่อการผลิตเมลานินด้วยเช่นเดียวกัน เช่น แสงแดด ฮอร์โมน การได้รับสารเคมีบางชนิด เป็นต้น เพราะฉะนั้นต่อให้ผิวขาวหรือผิวเข้มมาตั้งแต่แรก มันก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้แบบอัตโนมัติเมื่อเจอกับสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการผลิตเม็ดสีผิว เช่น ผิวขาว แต่ตากแดดนานๆก็ผิวเข้มขึ้นได้ เป็นต้น
ปัจจัยที่ทำให้ผิวคล้ำ ดำ เสียปัญหาผิวหมองคล้ำนับเป็นปัญหาที่กวนใจคนรักผิวมากๆ แต่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวคล้ำลงเลยก็ทำได้ไม่ง่ายนัก เพราะปัจจัยที่ส่งผลต่อสีผิวมีหลายประการ ดังนี้
จัดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวดำคล้ำเลยก็ว่าได้ ถึงแม้แดดช่วงเช้าจะมีวิตามินดี ได้รับแล้วดีต่อสุขภาพร่างกาย แต่แดดเมืองไทยแรงมาก แค่ช่วงสายๆก็ร้อนตับแตกแล้ว ไม่ต้องพูดถึงช่วงเที่ยงหรือบ่ายเลยว่าแดดจะแรงมากแค่ไหน เชื่อว่าถ้าออกจากบ้านไปกันโดยปราศจากการทาครีมกันแดดหรือเสื้อแขนยาวแล้วละก็ ต้องมีผิวไหม้กันบ้างอย่างแน่นอน เมื่อตากแดดเป็นเวลานานผิวจะคล้ำลง สีผิวไม่สม่ำเสมอ นั่นก็เพราะว่าผิวเรามีกลไกการป้องกันตัวเองจากแสงแดด โดยจะสร้างเม็ดสีเมลานินขึ้นมาเพื่อไม่ให้แดดทำร้ายลึกลงไปใต้ผิวหนัง นอกจากผลกระทบทางตรงอย่างผิวคล้ำลงแล้ว แสงแดดยังน่ากลัวกว่านั้นมาก เพราะรังสียูวีในแสงแดดเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วย แถมยังทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น ง่ายต่อการเกิดริ้วรอย เพิ่มโอกาสในการเป็นสิวหรือหากเป็นสิวอยู่ก่อนแล้วเจอแดดแรงๆ สิวอาจจะเห่อยิ่งกว่าเดิมได้เลยทีเดียว
หากต้องอาศัยอยู่ในสภาพอากาศที่แห้งแล้งหรือหนาวเย็น ผิวจะขาดความชุ่มชื่นได้ง่าย ทำให้ผิวแลดูมองคล้ำได้ถึงแม้จะไม่โดนแดดก็ตาม นอกจากผิวคล้ำแล้วอาจจะยังมีปัญหาผิวอื่นๆตามมาอีกด้วย เช่น ผิวแห้งลอกเป็นขุย ผื่นคันอักเสบ ผิวแตกลาย เป็นต้น ปัญหาผิวในกลุ่มนี้พบได้บ่อยกับชาวออฟฟิศที่ต้องทำงานในห้องปรับอากาศเป็นประจำ
ความเครียดส่งผลกระทบต่อผิวมากกว่าที่คิด ลองสังเกตดูช่วงไหนที่ทำงานหนักหรือประสบกับปัญหาชีวิตเยอะ ผิวหน้ามักจะหมองคล้ำไม่สดใส แถมอาจจะมีสิวมาเยือนเป็นระยะๆด้วย สาเหตุนั้นมาจากเวลาเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากกว่าปกติ ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นให้ต่อมน้ำมันที่ผิวหนังทำงานมากขึ้น หน้าจะมัน ทำให้เป็นสิวได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
การพักผ่อนที่เพียงพอส่งผลดีต่อทุกระบบในร่างกาย รวมไปถึงผิวพรรณด้วย เพราะผิวจะได้มีเวลาฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเอง ดังนั้นหากนอนน้อย ผลลัพธ์จะออกมาตรงกันข้ามกัน ผิวจะดูหมองคล้ำ ทรุดโทรม รวมทั้งดูแก่กว่าวัยอีกด้วย
น้ำมีความสำคัญกับผิวมาก เพราะช่วยกักเก็บความชุ่มชื่น หากดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ผิวจะเนียนนุ่มชุ่มชื่น ดูฟู อิ่มน้ำ หากดื่มน้ำน้อย ผิวจะแห้งไม่สดใส แลดูหมองคล้ำ
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ครีม โลชั่นรวมไปถึง สกินแคร์ ประเภทต่างๆ บางครั้งมีส่วนของสารเคมีที่ไม่เหมาะกับผิว เช่น น้ำหอม สี แอลกอฮอล์ สารกันเสีย เป็นต้น ใช้แล้วอาจทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำหรือระคายเคืองได้ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิดยังมีส่วนผสมจากสารเคมีต้องห้ามด้วย เช่น ปรอท สเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนน น้ำยากัดผิวขาว เป็นต้น ในตอนแรกที่ใช้ผิวอาจจะขาวขึ้นจริง แต่จะขาวแบบผิดธรรมชาติ หลังจากหยุดใช้ ผิวมักจะแย่ลงอย่างรวดเร็ว ผิวหมองคล้ำ เป็นสิวหนักหรือผิวอาจแตกลายได้เหมือนตอนตั้งครรภ์เลยทีเดียว
ควันบุหรี่ลดปริมาณออกซิเจนในผิว ทั้งยังทำลายความยืดหยุ่นของผิวด้วย คนที่สูบบุหรี่บ่อย ผิวจะหมองคล้ำ มีริ้วรอยได้ง่าย ดูแก่กว่าวัย นอกจากนี้ยังทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ไม่ดี ผิวจะขาดความสดใส ไม่เปล่งปลั่ง การดูดซึมวิตามินเอลดลง ทำให้ผิวหยาบและแห้งกร้าน
ผิวคนเราสามารถเสื่อมถอยลงได้ตามอายุไม่ต่างอะไรจากอวัยวะอื่นๆในร่างกาย ผิวจะแห้งได้ง่าย ริ้วรอยจะเพิ่มขึ้นตามวัย ขาดความกระชับ มีฝ้ากระและจุดด่างดำเพิ่มมากขึ้น
โดยปกติแล้วเซลล์ผิวของคนเราจะตายและเกิดใหม่ในทุกๆวัน การผลัดเซลล์ผิวจะมีวงจรประมาณ 28 วัน แต่ถ้าใครมีอัตราการผลัดเซลล์ผิวที่ช้ากว่านี้ สีผิวจะไม่ค่อยสม่ำเสมอ ดูคล้ำไม่สดใส แถมผิวยังแห้งกร้านได้ง่ายด้วย | |
ผู้ตั้งกระทู้ KBH :: วันที่ลงประกาศ 2024-03-13 11:10:18 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 185316 |